พรรณไม้ต้องห้าม ทิ้งอดีตสู่พรรณไม้ที่สูงค่า

อดีตเคยเป็นไม้อัปมงคล แต่ปัจจุบันมงลง เพราะราคาพุ่ง

อดีตเคยเป็นไม้อัปมงคล แต่ปัจจุบันมงลง เพราะราคาพุ่ง

เมื่อเหรียญยังมีสองด้าน เหตุไฉนต้นไม้ที่เราเห็นกันทั่วไป นอกจากจะถูกแบ่งให้ไม้มงคลแล้ว แน่นอนว่าก็ย่องต้องมีการแบ่งประเภทออกเป็นไม้อัปมงคลเช่นกัน ซึ่งไม้เหล่านี้ ไม่ใช่ว่าจะปลูกแล้วไม่ดี แต่เหตุที่เรียกว่าไม้อัปมงคลนั้นก็เพราะว่า เป็นไม้ที่ไม่ควรนำมาปลูกไว้ในบ้าน หากปลูกแล้วจะนำความโชคร้ายมาสู่คนในบ้าน ซึ่งความเชื่อของคนโบราณที่ปลูกฝังมาก็มีทั้งสองด้าน ซึ่งคนไทยในปัจจุบันก็ยังยึดถือและเชื่อในคำโบราณเหล่านี้

สำหรับไม้ที่เป็นอัปมงคลอย่างยิ่ง และไม่ควรนำมาปลูกไว้ในบริเวณบ้านมีด้วยกันหลายชนิด แต่ที่รู้จักและคุ้นเคย หรือบางท่านอาจเคยปลูกแล้วก็ตาม ไม้อัปมงคลที่พอยกตัวอย่างได้ก็มีหลายชนิด แต่จะยกมาบางส่วน อย่างเช่น

ดอกลั่นทม
แม้ลั่นทมจะมีลำต้นใหญ่งดงาม กลีบดอกสวยงาม สีสันละมุนตากลิ่นหอมจับใจ แต่ชาวไทยไม่นิยมปลูกลั่นทมเอาไว้ในบ้าน เพราะเชื่อกันว่า ชื่อของต้นไม้ชนิดนี้ไม่เป็นมงคล เพราะคำว่าลั่นทมนั้น ดันไปพ้องใกล้เคียงกับคำว่าระทมมากเลยที่เดียว ซึ่งชื่อที่ไม่ดีก็ไปเข้ากับความเชื่อแต่โบราณที่ว่า หากใครปลูกต้นลั่นทมไว้ในบ้าน คนทั้งบ้านก็จะมีแต่ความทุกข์ระทม ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เราจะเห็นต้นลั่นทมมากมายถูกปลูกไว้ในเขตของโบสถ์และวัดวาอาราม หรือตามหลุมฝังศพ และสถานที่ราชการเท่านั้นแต่ในปัจจุบันเมื่อมีการเปลี่ยนชื่อมาเป็นลีลาวดี ความนิยมของลั่นทมก็กลับมามาก ความเชื่อที่ว่าปลูกไว้ในบ้านจะไม่ดี จะมีแต่เรื่องทุกข์เรื่องโศก ก็ดูจะถูกลืมเลือนไป

โศก
โศกก็เป็นต้นไม้อีกชนิดหนึ่งที่ชาวไทยไม่นิยมนำมาปลูกไว้ในเขตรั้วบ้าน ชื่อของมันก็ชวนให้หดหู่และเศร้าใจเพราะคำว่าโศกนั้น มักจะชวนให้นึกถึงความโศกเศร้าอยู่เสมอ จะเห็นได้ว่าชื่อของไม้แต่ละชนิดมีความสำคัญมากกับความเชื่อของคนเรา และชื่อที่ไม่เป็นมงคลนี้เองทำให้เกิดความเชื่อสืบต่อกันว่า หากปลูกต้นโศกเอาไว้ในบ้านคนในบ้านก็จะมีแต่ความทุกข์เศร้า หม่นหมอง อมทุกข์ อมโศกกันหมด แต่โดยตามประวัติความมานั้น ชื่อเต็มๆ ของต้นโศกก็คือ อโศก ซึ่งไม่ได้มีความหมายหรือเกี่ยวข้องอะไรกับความทุทุกข์ความโศก แต่เมื่อเรียกสั้นๆ สั้นๆ เหลือเพียงคำว่า  โศก จึงแปลความหมายไปเช่นนั้น และถูกจัดเป็นไม้อัปมงคลที่ไม่ควรปลูกไว้ในบ้านโดยปริยาย

มะละกอ
มะละกอเป็นพืช และเป็นไม้ผลอีกชนิดหนึ่งซึ่งมีชื่อที่ตีความออกมาแล้วส่งไปในทางที่ไม่ค่อยจะดี ซึ่งตามความเชื่อบ้างก็ว่าชื่อของมะละกอ และลักษณะของต้นมะละกอนั้น เหมือนกับการแตกออกเป็นกอ หรือ "ละ" จากเผ่าจากกอ หากบ้านไหนปลูกไว้ในบริเวณบ้าน บ้านหลังนั้นก็จะไม่มีความสุข เพราะลูกหลานจะแตกแยกออกไปเป็นกลุ่มๆ มีความคิดขัดแย้ง จะทะเลาะเบาะแว้งจนหาความสุขไม่ได้ หากจะปลูกไว้เพื่อเก็บรับประทาน ก็ควรปลูกไว้ริมรั้วนอกบ้าน มิได้ห้ามปลูกโดยสิ้นเชิง เพราะมะละกอขึ้นง่าย และทนทานดีมีประโยชน์เพราะผลสามารถนำมารับประทานได้ ทั้งสุกและดิบ

เต่าร้าง
ต้นไม้ที่คนไทยเชื่อกันว่าจะส่งผลที่ไม่ดีแก่ผู้ปลูก มักจะมีชื่อที่ค่อนไปในทางที่ไม่ดีนัก ในกรณีของต้นเต่าร้าง ก็เช่นกัน ถือว่าเป็นอัปมงคลนาม เชื่อกันว่าสามีภรรยาคู่ใด ปลูกเต่าร้างไว้ในบ้าน ก็อาจจะต้องเลิกราหย่าร้างกันเพราะความหมายของชื่อเต่าร้างนั้น แสดงไปในทางเลิกร้าง ร้างรา หรือหย่าร้างอยู่แล้ว ดังนั้น จึงไม่เหมาะที่จะปลูกต้นไม้ชนิดนี้ ไว้ในบริเวณบ้านอีกเช่นกัน

ชบา
ชบาเป็นไม้อีกชนิดหนึ่ง ที่มีผู้นิยมนำมาปลูกไว้ในบริเวณบ้านมากพอสมควรเลยทีเดียว เพราะชบามักจะออกดอกบานสะพรั่ง ปลูกง่าย และสีสันของดอกก็ยังมีให้เลือกมากมาย ทั้งแดง เหลือง ขาว ชมพู ส้ม ดูเพลินตาและสวยงาม แต่ในสมัยโบราณนั้น ไม่นิยมปลูกต้นชบาเอาไว้ในบริเวณบ้าน เพราะดอกชบา  มักจะถูกนำไปใช้เมื่อเกิดเรื่องที่ร้ายๆ ขึ้นเช่น นำดอกชบามาร้อยเป็นพวง แล้วนำไปสวมคอหญิง - ชาย ที่เป็นชู้ หรือ ลักลอบได้เสียกัน รวมทั้งนำพวงมาลัยดอกชบา ไปสวมคอนักโทษที่กำลังจะถูกประหารอีกด้วย จึงเชื่อกันว่าดอกชบา เป็นสัญลักษณ์การเล่นชู้ หากจะต้องตัดใจปลูกก็ควรปลูกไว้นอกรั้วบ้าน ซึ่งเราจะเห็นทั่วไปว่า ชบามักจะถูกปลูกเป็นกออยู่ในรั้วบ้านทั่วไป

มะรุม
มะรุมเป็นต้นไม้ที่มีมาแต่โบราณ มะรุมที่รู้จักกันดี ก็สามารถนำมาทำแกงส้มได้ รสชาติเอร์ดอร่อยทีเดียวหรือนำเปลือกมะรุม ไปใช้ประโยชน์ทางยา ก็ได้เช่นกัน แต่ความหมายและชื่อเรียกของคำว่า มะรุมนั้น ก็มีความหมายที่ไม่ค่อยจะดีเท่าใด เพราะไปคล้องจองกับคำว่า "มะรุมมะตุ้ม"  ที่หมายถึง กลุ้มรุมทำให้เกิดความเดือดร้อน วุ่นวาย ดังนั้น หากปลูกต้นมะรุมเอาไว้ในบ้าน ก็อาจจะโดนเรื่องร้ายๆ โหมกระหน่ำรุมล้อม จนสมาชิกทั้งหลายในบ้าน หมดความสุขไปเลยก็เป็นได้

นางแย้มป่า
คนไทยเชื่อกันมาแต่โบราณแล้วว่าต้นนางแย้มป่านั้นเป็นต้นไม้ที่ไม่เหมาะที่จะนำมาปลูกในบ้านโดยเด็ดขาดเพราะต้นนางแย้มป่า ตามความเชื่อว่ากันว่า  เป็นต้นไม้ที่มีภูตผีปีศาจสิ่งอยู่ ซึ่งถ้าหากนำไปปลูกไว้ภายในบ้าน วันดีคืนดี ต้นนางแย้มป่าก็จะแสดงอิทธิฤทธิ์ทำร้ายรังแกผู้คนในบ้านให้หวาดผวาเสียขวัญ หรือเจ็บไข้ได้ป่วยกันไปเสีย ซึ่งหากกล่าวถึงภูตผีปีศาจด้วยแล้ว อย่าไปยุ่ง หรืออย่าไปปลูกจะเป็นการดี

ชวนชม
ต้นชวนชมมีความหมายตามนัยแล้ว แบ่งออกได้ 2 นัย ทั้งในทางดีและไม่ดี หากมองในแง่ดี การปลูกต้นชวนชมเอาไว้ในบ้านนั้น ก็จะส่งผลให้มีผู้คนมาชื่นชม นิยม และยกย่อง สมาชิกในบ้านเป็นที่รักของคนทั่วไป แต่ความหมายในทางที่ไม่ดีนั้น ชวนชมก็มีความหมายไปในทางชักชวนให้มาเชยชม จึงไม่เหมาะที่จะนำมาปลูกภายในบ้านที่มีลูกสาววัยแรกรุ่น เพราะอาจจะเป็นการชักนำหนุ่มๆ ให้เข้ามาหาลูกสาวได้ จึงจะเป็นทางให้เกิดเรื่องเสื่อมเสียแก่ครอบครัวได้แต่ในทางวิทยาศาสตร์ หรืออาจจะกล่าวตามหลักของทฤษฎี ยางของต้นชวนชมค่อนข้างจะเป็นอันตรายหากเด็กๆ ไปโดนเข้า ก็อาจจะปวดแสบปวดร้อน จนต้องพาไปพบแพทย์เลยทีเดียวถือเป็นไม้อัปมงคลและเป็นอันตรายไปพร้อมกัน

งิ้ว
ตามสถานที่ที่เป็นองค์กร อาคารสำนักงาน หรือสวนอาหารบางแห่ง  ได้ปลูกต้นงิ้วเอาไว้สูงใหญ่ดูงามตาซึ่งถ้าไม่ใช่เป็นที่พักอาศัย ก็ถือว่าไม่เป็นไรนัก แต่ไม่ควรปลูกไว้ในบ้าน เพราะวเป็นต้นไม้ ที่เปรียบสัญลักษณ์แห่งการมีชู้ ดังนั้นคนไทยโบราณ จึงไม่นิยมปลูกต้นงิ้วไว้ในอาณาบริเวณบ้าน ทั้งลำต้นเองก็มีหนามแหลม คงไม่เหมาะแน่หากปลูกไว้ในบ้านที่มีเด็กเล็กๆ เพราะจะเป็นอันตราย

ระกำ
ชื่อก็บอกชัดเจนอยู่แล้วว่าหมายถึงการมีความทุกข์ระกำชอกช้ำ  จึงไม่ควรปลูกต้นระกำไว้ในบริเวณบ้านเพราะแม้ผลของมัน จะมีรสชาติอร่อยลิ้นเพียงใด แต่ชื่อของระกำไม่ค่อยเป็นมงคลนัก นอกจากนี้ ตามความเชื่อของโบราณ พรรณไม้ที่กล่าวมานี้ เป็นเพียงบางส่วนที่มีการกล่าวถึงกันมาก และส่วนใหญ่เป็นพรรณไม้ที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีไม้อีกหลายพันธุ์ที่ถือเป็นไม้ต้องห้ามไม่ควรปลูกไว้ในบ้าน อย่างเช่น ต้นโพธิ์ ต้นไทร ต้นตาล ต้นยาง ต้นมะกอกต้นแค ต้นหว้า ต้นสลัดใด ต้นมะงั่ว ต้นหวาย และต้นสำโรง ซึ่งแม้ว่าตามความเชื่อโบราณ ต้นไม้บางชนิดอาจจะไม่เกี่ยวข้องกับความเป็นไม้อัปมงคล แต่ความนิยมของคนไทยก็ไม่นิยมที่จะปลูกไม้เหล่านี้ไว้ในบ้านอยู่แล้ว