ไม้มงคลในพุทธประวัติ สิริมงคลกับตัวเองและครอบครัว

ไม้มงคลในพุทธประวัติ สิริมงคลกับตัวเองและครอบครัว

   
ปรับปรุงล่าสุด 13 ต.ค. 2566, 16:58

ไม้มงคลในพุทธประวัติ สิริมงคลกับตัวเองและครอบครัว

พันธุ์ไม้มงคล เสริมบารมีปลูกไว้เพื่อความเป็นสิริมงคล

พันธุ์ไม้มงคล เสริมบารมีปลูกไว้เพื่อความเป็นสิริมงคล

ต้นโพธิ์ (Ficus religiosa L.)
ต้นโพธิ์ หรือที่ชาวลังกาเรียกว่า Bohd tree และที่ชาวอินเดียเรียกว่า Pipal นี้นับได้ว่าเป็นต้นไม้ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในพระพุทธประวัติอีกชนิดหนึ่ง เพราะเจ้าชายสิทธัตถะกุมาร ในระหว่างบำเพ็ญเพียร เพื่อหาสัจธรรมนั้น ได้ทรงเลือกนั่งประทับที่โคนต้นโพธิ์ จนกระทั่งพระองค์ได้ตรัสรู้พระสัมมวสัมโพธิญาน คือ อริยสัตย์ 4 อันประกอบด้วย ทุกข์ สมุห์ทัย นิโรธ มรรค เมื่อวันเพ็ญเดือน 6 แม้พระองค์จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า แล้วก็ยังต้องทรงใช้พลังจิตรบกับพวกมาร (การเอาชนะกิเลสฝ่ายต่ำ) ก็โดยประทับอยู่ใต้โคนต้นโพธิ์อีก  เช่นกัน เพราะโพธิ์มีร่มเงาเหมาะแก่การพักพิงและบำเพ็ญเพียร เป็นอย่างยิ่ง 

คลิกเพื่อเปิดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม


มะขามป้อม (Phyllanthus emblica L.)
มะขามป้อม หรือที่ชาวฮินดูเรียกว่า "อะมะลา" ต้นสาละ เป็นไม้ที่เกี่ยวข้องกับพระหรือ "อะมะลิกา" นี้ ตามพระพุทธประวัติก็กล่าวไว้เช่นเดียวกับมะม่วง คือ ในคราวที่พระองค์เสด็จไปเก็บมะม่วงนั้น ก็ได้ทรงเก็บมะขามป้อมมาด้วย

คลิกเพื่อเปิดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม


กุ่มบก (Crateva adansonii DC. ssp. trifoliata (Roxb.) Jacobs )
กุ่มบก หรือที่ชาวฮินดูเรียกว่า "มารินา" นี้ ตามพระพุทธประวัติกล่าวว่า พระพุทธเจ้านำผ้าบังสกุล ซึ่งห่อศพ นางมณพาสี ในอามกสุสาน (ป่าช้าผีดิบ) ไปทรงซัก เมื่อชักเสร็จแล้วก็มาที่ที่ผ้าบังสกุลดังกล่าว พฤกษเทวา ซึ่งสิงสถิตอยู่ ณ ต้นกุ่มบก ได้น้อมกิ่งต้นกุ่มให้ต่ำลง เพื่อให้เป็นที่ตากจีวร

คลิกเพื่อเปิดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม


ต้นสาละ
(Shorea robusta Roxb.)

สาละ ชาวอินเดียเรียกว่า ซาล (Sal) เป็นไม้ที่ เกี่ยวข้องกับพระพุทธองค์ตั้งแต่ประสูติจนถึงปรินิพพาน โดยที่พุทธมารดา คือ พระนางสิริมหามายา เมื่อใกล้กำหนดจะให้พระสูติการก็เสด็จจากกรุงกบิลพัสดุ์ไปกรุงเทวทหนดร อันเป็นเมืองต้นตระกูลของพระนาง ตามธรรมเนียมพราหมณ์ (ที่การคลอดบุตรฝ่ายหญิงจะต้องกลับไปคลอดที่บ้าน พ่อ - แม่ ของฝ่ายหญิง) ในระหว่างทางพระนางได้ทรงหยุดพักบริเวณป่าแห่งหนึ่งใต้ร่มต้นสาละ เขตตำบลลุมพินีสถาน คงจะเป็นด้วยทรงถูกกระทบกระเทือนจากการเดินทางไกล หรือจะเป็นด้วยอำนาจบุญญาธิการของพระราชโอรส (คือพระพุทธเจ้าในเวลาต่อมา) พระนางทรงเจ็บพระครรภ์ ผู้ตามเสด็จก็คงจัดเตรียมกั้นเป็นฉากห้อง เพื่อใช้เป็นสถานที่พระสูติการภายใต้ร่มของต้นสาละนั้น 

คลิกเพื่อเปิดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม


สีเสียด
(Acacia catechu Willd.)

สีเสียด หรือที่ชาวฮินดูเรียก "แคร" หรือที่ทางการค้าเรียกว่า Catechu tree นี้ ตามพระพุทธประวัติ กล่าวว่า เมื่อพระองค์สำเร็จพระสัมมาสัมโพธิญานได้  8 พรรษา ก็ได้เสด็จไปประทับภูสกภวัน คือ ป่าไม้สีเสียดใกล้สูงสุมารคีรีในกัคคฏฐี

คลิกเพื่อเปิดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม


ประดู่ลาย ประดู่แขก
(Dalbergia sissoo Roxb.)

ประดู่ลาย ประดู่แขก หรือชาวอินเดีย เรียก "ลิสโช" และที่ชาวฮินดูเรียกว่า "สิสสู" นี้ตามพระพุทธ ประวัติกล่าวว่า เมื่อพระพุทธเจ้ากลับจากเทศนาโปรด พระเจ้าสุทโทธนะ พระราชบิดาแล้วก็เสด็จพาพระอานนท์ พระราหุล พร้อมทั้งพระสงฆ์บริวารสู่กรุงราชคฤห์ ประทับยังสีสปาวัน หรือปาประดู่แขก หรือประดู่ลาย

ประดู่ลายหรือประดู่แขก เป็นพันธุ์ไม้อยู่ในกลุ่ม พวกไม้พยุง ' ชิงชันของไทย คือสกุล (Genus) ชิงชัน (Dalbergia) อยู่ในวงศ์ (Family) ไม้ถั่ว (Leguminosae Papilionoiceae) เป็นไม้ต้นขนาดใหญ่ ผลัดใบลำต้น เปลาตรง เปลือกสีเทา แก่นสีน้ำตาล และมีริ้วสีดำแซม เรือนยอดเป็นพุ่มโปร่ง ใบออกเป็นช่อหนึ่งๆ มีใบย่อย 3 - 5 ใบ ใบย่อยรูปมน ป้อม หรือมนแกมรูปไข่ ปลายใบแหลม ใบอ่อน มีขนนุ่ม แต่พอแก่ขนจะหลุดร่วงไป ดอก สีเหลืองอ่อนๆ ปนขาวออกรวมกันเป็นช่อสั้นๆ ตามง่ามใบ เกสรผู้มี 9 อัน รังไข่รูปยาวรีๆ และจะยาวกว่าหลอดท่อรังไข่ ฝัก รูปบันทัดแคบๆ ปลายฝักแหลม แต่ละฝักมีเมล็ด 1-3 เมล็ด

คลิกเพื่อเปิดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม


ต้นไทรนิโครธ
(Ficus bengalensis L.)

ต้นไทรนิโครธหรือเรียกตามภาษาสันสกฤตว่า "บันฮัน" และตามภาษาฮินดูว่า "บาร์คาด" ตามพระพุทธประวัติ กล่าวว่าหลังจากที่พระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสรู้แล้ว ได้ทรงประทับอยู่ ณ ภายใต้ร่มโพธิ์ต่อไปอีก 7 วัน จึงได้ทรงย้าย ไปประทับต่อที่ใต้ร่มไทรนิโครธอีก 7 วัน

ไทรนิโครธ เป็นพันธุ์ไม้ที่อยูในกลุ่มเดียวกันกับโพธิ์ กร่างและมะเดื่อ คือสกุล (genus) มะเดื่อ (Ficus) ในวงศ์(Family) ไทร (Moraceae) เป็นไม้ต้นขนาดใหญ่ ลำต้นเป็นพูพอนมาก มีกิ่งก้านสาขาไม่แพ้ต้นโพธิ์เช่นกัน ปลายกิ่งจะห้อยลู่ลง ทำให้เกิดเป็นพุ่มกลมแน่นทึบ ตามลำต้นและกิ่ง จะมีรากอากาศห้อยย้อยลงมามาก ซึ่ง "รากอากาศนี้จะเจริญเติบโต เป็นลำต้นต่อไปได้อีกด้วย ฉะนั้นบางทีจะทำให้เกิดเป็นหลืบสลับซับซ้อน ดูเป็นฉากเป็นห้องพัก กำบังลม ฝนได้เป็นอย่างดี และเพราะเหตุนี้พระพุทธเจ้าจึงทรงเสด็จ ประทับเพราะอาจจะเป็นได้ว่าในช่วงนั้นมีฝนตก และลมแรง

คลิกเพื่อเปิดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม


มะม่วง
(Mangifera indica L.)

มะม่วงหรือที่ชาวฮินดูเรียกว่า "อะมะ" หรือ "อะมะริ" นี้ ตามพระพุทธประวัติ กล่าวว่าพระพุทธเจ้าได้เสด็จไป ประทับอยู่ในสวนอัมพวารามของหมอชีวกโกมาลพัตร ซึ่งเป็นปามะม่วง มีต้นมะม่วงขึ้นมากมาย และอีกตอน หนึ่งในขณะที่พระพุทธเจ้าได้ไปพำนักอยู่กับกัสสปฏิลดาบส พระฤษีตนนั้นก็กราบทูลนิมนต์ภัตกิจ พระองค์ก็ตรัสให้พระฤษีไปก่อน ส่วนพระองค์ได้เสด็จเหาะไปเก็บผลมะม่วง หว้า ฯลฯ แล้วเสด็จไปสู่ดาวดึงษ์เทวโลก นำเอาปาริฉัตรพฤกษชาติกลับมา พระองค์ยังเสด็จมาถึงก่อนฤษีตนนั้นเสียอีก

คลิกเพื่อเปิดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม


ต้นปาริฉัตร
(Erythrina variegata L.)
ปาริฉัตร
หรือทองหลางลาย หรือชาวฮินดูเรียกว่า "มังการา" นี้ ตามพระพุทธประวัติกล่าวว่า พระองค์
ได้เสด็จเหาะไปสู่ดาวดึงษ์เทวโลก แล้วไปนำเอาปาริฉัตรพฤกษชาติกลับมา กับอีกตอนหนึ่งจะเป็นตอนที่พระพุทธเจ้าชนะมาร หรือตอนปรินิพพานไม่แน่นอน ที่เทวดาทั้งหลายได้ถวายดอกปาริฉัตรเป็นพุทธบูชา กล่าวว่าดอกปาริฉัตรจะหล่นมาจากพากฟ้าเกลื่อนพื้นไปหมด

ปาริฉัตรหรือที่เพี้ยนมาเป็นปาริชาติและไทยเรา รู้จักในชื่อทองหลางลายหรือทองหลางด่างนี้ เป็นพันธุ์ไม้ สกุล (Genus) Erythrina ในวงศ์ถั่ว (Leguminosae Papilionoiceae) เป็นไม้ต้นขนาดกลาง ผลัดใบ ตามกิ่งหรือต้นอ่อนมีหนามแข็งๆ แต่หนามนี้จะค่อยๆ หลุดไป เมื่อต้นหรือกิ่งมีอายุมากขึ้น เรือนยอดเป็นพุ่มกลมโปร่ง ใบเป็นช่อ ช่อหนึ่งๆ มีใบย่อย 3 ใบ ใบกลางจะโตกว่าอีกสองใบด้านข้างดอกสีแดงเข้มออกรวมกัน เป็นช่อยาวประมาณ 30 - 40 ชม. กิ่งยาว 5 - 30 ชม. พบทั่วไปในย่านเอเชียเขตร้อนและอบอุ่นขยายพันธุ์ง่ายจะใช้เมล็ดเพาะหรือตัดกิ่งไปปลูกเลยก็ได้นิยม ปลูกเป็นไม้ประดับตามสวนกันมาก ชื่อพื้นเมืองของไทยยังเรียกในชื่ออื่นๆ อีก เช่น ทองบ้าน ทองเผือก เป็นต้น


ต้นเกด
(Manikara hexandra (Roxb.) 
Dubard)
ต้นเกด หรือที่ชาวฮินดู เรียกว่า "ครินี" หรือ "ไรนี" นี้ ตามพระพุทธประวัติกล่าวว่าเมื่อพระพุทธเจ้า ทรงประทับ อยู่ใต้ต้นจิกเป็นเวลาครบ 7 วันแล้ว ก็เสด็จ ไปประทับต่อที่ใต้ต้นเกดอีกเป็นเวลา 7 วัน

เกด เป็นพันธุ์ไม้สกุล (Genus) ละมุด (Manikara) ในวงศ์ (Family) ไม้ขนุนนก (Sapotaceae) เป็นไม้ต้นขนาดใหญ่ ลำต้นค่อนข้างเปลาตรง เปลือกแตกเป็นสะเก็ดสีดำ เนื้อไม้สีน้ำตาลแดง เสี้ยนสน แต่เหนียว และแข็งมาก กิ่งมักคดงอเป็นข้อศอก เรือนพุ่มเป็นกลุ่มกลม ไม่ผลัดใบ ต้นเล็กจะมีกิ่งลักษณะคล้ายหนาม มีใบติดเวียนกัน กันเป็นกลุ่มตามปลายๆ กิ่ง ปลายหนาม ลำต้นยังเล็กอยู่ ถ้าสับเปลือกดูจะมียางขาวซึมออกมาใบ รูปไข่กลับ ปลายใบผายกว้าง และมักหยักเว้าเข้าใบจะเรียวสอบมาทางโคนใบ เนื้อใบละเอียดเป็นมันทางด้านบนและ มักเป็นคราบขาวทางด้านล่างเป็นแขนง ใบมักขนานกันและค่อนข้างถี่ ดอกออกเป็นกระจุกๆ ละ 3 - 5 ดอก ตามง่ามใบของกิ่งแขนง มีสีเหลืองอ่อนกลิ่นหอม ดอกบานจะกว้างประมาณ 0.7 ชม. กลีบดอกเป็นฝอยเล็กๆ. ก้านดอกยาวประมาณ 1 ชม. ผล กลม โตประมาณ 1 - 1.5 ชม. มีเนื้อเยื่อหุ้ม ใช้รับประทานได้ มีรสหวาน

เกด พบขึ้นทั่วไปตามปาที่มีพื้นเป็นดินทราย และ ดินปนหิน ในสภาพป่าที่ค่อนข้างแห้งแล้งทั่วไปในภูมิภาคเอเชีย มักเป็นพันธุ์ไม้หลักตามเกาะแก่งต่างๆ ที่เป็นเขาหินปูน ในประเทศไทยพบมากตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ลงไป และมีมากตามเกาะต่างๆ ในอ่าวไทย ชาวประมงนิยมเอาไม้เกดมาทำเรือ โดยใช้เป็นไม้สลักแทนตะปูสำหรับ ติดกระดานกับโครงของเรือ เพราะถ้าใช้ตะปูจะเป็นสนิมง่ายไม่ทนทาน นอกจากนี้ยังนิยมเอาผลแก่มาใช้รับประทาน เป็นของหวาน ซึ่งเป็นที่นิยมมากในการแพร่พันธุ์ ใช้เมล็ดเพาะ ไม่ชอบดินเหนียว และต้องการแสงมาก

จากการที่ต้นเกดชอบขึ้นในที่แห้งแล้ง ดินเป็นทราย ไม่ชื้นแฉะ ก็อาจสันนิษฐานได้ว่าพระพุทธเจ้าประสงค์จะ ทรงย้ายจากถิ่นที่มีความชุ่มชื้น เพราะฝนตกหนักไปสู่ที่ดอน และเกดมักชอบขึ้นเป็นกลุ่มทำให้มีเรือนยอดเป็นที่พอกำบังแดดได้ และเป็นช่วงที่ผลเกดสุก พอจะใช้รับประทานบำบัดความหิวได้
 


หว้า
(Syzygium cumini (L.) Skeels)
ต้นหว้า
หรือที่ชาวฮินดูเรียกว่า "จามาน" หรือ "จามูน" ในพระพุทธประวัติกล่าวไว้สองตอนด้วยกัน คือ ตอนแรก  เมื่อพระเจ้าสุทโรทนะ สมเด็จพระราชบิดา เสด็จไปทรงประกอบพิธีจรดพระนังคัญแรกนาขวัญได้นำพระสิทธัตถะกุมาร (พระพุทธเจ้าในเวลาต่อมา) ไปดูด้วยและให้ประทับอยู่ใต้ต้นหว้าใหญ่ บรรดาพระพี่เลี้ยงนางนมต่างก็ไป ดูพิธีแรกนาขวัญกันหมด พระกุมารจึงลุกนั่งสมาธิกรรมฐาน ก็เป็นเหตุที่น่าอัศจรรย์ว่าแม้ตะวันจะบ่ายคล้อยไปแล้ว ร่มเงาของไม้หว้านั้นก็ยังไม่ขยับเปลี่ยนทิศทางคงปิดบังให้ ความร่มเย็นแก่พระองค์ โดยปรากฎเป็นปริมณฑลตรงอยู่ประดุจเงาของตะวัน ตอนเที่ยงตรงและอีกตอนหนึ่ง กล่าวว่าตอนที่พระพุทธเจ้าไปอาศัยกัสสปชฏิล พระฤษีได้ทูลนิมนต์ภัตตภิจพระองค์ตรัสให้ไปก่อนแล้วเสด็จ เหาะไปนำผลหว้าใหญ่ประจำทวีปในป่าหิมพานต์ และไปสู่ที่โรงเพลิงก่อนที่กัสสปชฎิลจะไปถึง

คลิกเพื่อเปิดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม


ตาล
(Borassus flabellifer L.)

ตาล หรือที่ชาวฮินดูเรียกว่า "ตาละ" ตามพุทธประวัติกล่าวว่า ในพรรษาที่สองหลังจากที่พระองค์สำเร็จสัมมา สัมโพธิญาณ ได้เสด็จไปประทับ ณ ลัฏฐิวนุทยาน (ลัฏฐตาล) เพื่อโปรดให้พระเจ้าพิมพิสารราชาแห่งแคว้นมคธ รวมทั้งบริวารเข้าเฝ้าแล้วพระเจ้าพิมพิสาร ได้ทูลเชิญเสด็จให้เข้าประทับในเมืองพร้อมกับถวายพระกระยาหาร เสร็จแล้วได้ถวายเวฬุวนารามแด่พระพุทธเจ้า และพระสงฆ์สาวก ทั้งนี้พระเจ้าพิมพิสารคงจะทรงเห็นว่า ป่าไม้ไผ่นั้นร่มเย็นดีกว่าป่าตาลเป็นแน่

คลิกเพื่อเปิดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม


ตะเคียนทอง
(Hopea odorata Roxb.)
ตะเคียนทอง
ตามพระพุทธประวัติกล่าวว่า เมื่อพระพุทธเจ้าจะทำยมกปาฏิหารย์ ณ เมืองสาวัตถี ฝ่ายเดียรถีย์ก็จะทำแข่งบ้าง ได้เตรียมกระทำมณฑลมีเสาซึ่งทำด้วยไม้ตะเคี่ยน หลังคามุงด้วยดอกนิลอุบล และอีกตอนหนึ่งกล่าวไว้ว่า สิริคุตถ์หลอกให้พวกนิครนต์ อาจารย์ของครหพินน์ตกลงในหลุมอุจจาระ ครหพินน์จึงคิดที่จะแก้แค้นเอากับพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นอาจารย์ของสิริคุตถ์ โดยทำหลุมไฟ ซึ่งใช้ไม้ตะเดียนเป็นเชื้อเพลิง ทำกระดานกลปิดไว้ที่ปากหลุม แต่พอพระพุทธเจ้าตกไปจริงก็มีดอกบัวมารองรับพระบาท พระพุทธเจ้าจึงมิเป็นอันตรายแต่อย่างใด

คลิกเพื่อเปิดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

ความเชื่อ,ไม้มงคล,เสริมโชค,ชูวาสนา


ID11

ตะเคียนทอง (Hopea odorata Roxb.)

ไม้มงคล
5 เม.ย. 2566, 13:55 | รับชม 26 ครั้ง


ID10

ตาล (Borassus flabellifer L.)

ไม้มงคล
5 เม.ย. 2566, 13:55 | รับชม 10 ครั้ง


ID9

หว้า (Syzygium cumini (L.) Skeels)

ไม้มงคล
5 เม.ย. 2566, 13:49 | รับชม 13 ครั้ง


ID8

มะม่วง (Mangifera indica L.)

ไม้มงคล
5 เม.ย. 2566, 13:46 | รับชม 13 ครั้ง


ID7

ต้นไทรนิโครธ (Ficus bengalensis L.)

ไม้มงคล
5 เม.ย. 2566, 13:40 | รับชม 16 ครั้ง


ID6

ประดู่ลาย ประดู่แขก (Dalbergia sissoo Roxb.)

ไม้มงคล
5 เม.ย. 2566, 13:31 | รับชม 38 ครั้ง


ID5

สีเสียด (Acacia catechu Willd.)

ไม้มงคล
5 เม.ย. 2566, 13:26 | รับชม 21 ครั้ง


ID2

ต้นสาละ (Shorea robusta Roxb.)

ต้นไม้มงคล
5 เม.ย. 2566, 12:29 | รับชม 17 ครั้ง


ID4

กุ่มบก (Crateva adansonii DC. ssp. trifoliata (Roxb.) Jacobs )

ไม้มงคล
5 เม.ย. 2566, 13:13 | รับชม 15 ครั้ง


ID3

มะขามป้อม (Phyllanthus emblica L.)

ปลูกไม้มงคล
5 เม.ย. 2566, 12:53 | รับชม 15 ครั้ง


ID1

ต้นโพธิ์ (Ficus religiosa L.) ต้นโพธิ์

ต้นโพธิ์ (Ficus religiosa L.) ต้นโพธิ์ ไม้มงคล
5 เม.ย. 2566, 11:59 | รับชม 16 ครั้ง